บรรยายเปิดการอบรม โดย นายสุรพงษ์  จำจด เลขาธิการ กศน.

1) การอบรมนี้มุ่งหมายให้กลับไปเป็นวิทยากรถ่ายทอดต่อให้ครู กศน.ทุกตำบล ปรับแก้คำรับรองการปฏิบัติงานและแผนปฏิบัติการ ( ทั้งในโปรแกรม Excel และระบบฐานข้อมูลฯ ) ให้เรียบร้อยภายในสิ้นเดือน มี.ค.59 ขณะนี้ยังลงนามคำรับรองระหว่างเลขาธิการ กศน.กับ ผอ.กศน.จังหวัดไม่ได้ เพราะยังไม่ถูกต้อง
( ปรับฟอร์มเป็นเวอร์ชั้น 12 โดยในไฟล์ Excel แยกตามโครงการใหญ่ 6 โครงการ ออกเป็น 6 ชีท ปรับชีทที่ 6 โครงการตามยุทธศาสตร์ใหม่ ส่วนในระบบฐานข้อมูลออนไลน์ เพิ่มโครงการที่ 6 ซึ่งทั้ง 6 โครงการในระบบฐานข้อมูล แยกกันอยู่แล้ว )

2) การขออนุมัติกรมบัญชีกลางให้จัดการศึกษาต่อเนื่องในลักษณะฝึกอบรมได้ ( เบิกค่าอาหาร ค่าเดินทางได้ ) เราขอไปไม่มาก ( ค่าอาหารมื้อหลักมื้อละ 70 บาท เบรคมื้อละ 35 บาท ) ขณะนี้ทราบว่า จนท.กรมบัญชีกลางเสนอเรื่องนี้ถึงห้องอธิบดีกรมบัญชีกลางแล้ว แต่ไม่ทราบว่า จนท.เสนอว่าอย่างไร
3) กระทรวง ICT จะจัดให้ กศน.ตำบล ทุกแห่ง เป็นศูนย์ดิจิทัลชุมชน ( เปลี่ยนจากศูนย์ ICT ประจำตำบล ) โดยให้มีอินเทอร์เน็ตแบบ Free Wifi ไม่มีค่าใช้บริการอินเทอร์เน็ต โดยผู้จะใช้อินเทอร์เน็ต (ความเร็ว30 เม็ก ) ต้องลงทะเบียนด้วยเลขประจำตัวประชาชน กศน.ตำบลต้องเป็นสถานที่ที่พร้อมจะติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตนี้ ต้องเช็คพิกัดไม่ให้ผิดพลาด

ครู กศน.ตำบลต้องเข้าอบรมหลักสูตร DE ( ดิจิทัล อีโครโนมิค ) ของกระทรวง ICT 2 หลักสูตร คือ

 1.อบรมมาเป็นวิทยากรสอนการใช้โมบายโฟนให้ประชาชน

 2.อบรมมาเป็นวิทยากรสอนประชาชนให้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางอินเทอร์เน็ต

 กศน.ตำบล มีภารกิจเป็นศูนย์ 4 ศูนย์ คือ 
1. ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยประจำตำบล
3. ศูนย์ดิจิทัลชุมชน
4. ศูนย์เรียนรู้ตลอดชีวิต

4) ตัวอย่างการเรียนรู้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ( เทคโนโลยี+ภูมิปัญญา ) เช่น ใช้เหล็กแหนบทำเครื่องเจาะบ่อน้ำบาดาล การอบกล้วยตากด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ การผลิตก๊าซชีวภาพ ( เทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตเพิ่มรายได้ ) การจัดการขยะ การสร้างเตาเผาขยะ การปลูกพืชน้ำหยด
5) ผู้ที่ผ่านหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุ หลักสูตร 70 ชั่วโมงแล้ว เข้าหลักสูตร 420 ชั่วโมงได้อีก ( เป้าจังหวัดละ 20 คน/หลักสูตร )
6) อำเภอใดไม่มีพื้นที่ทรงงานอยู่ใกล้ ไม่สามารถจัดโครงการเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาทได้ ให้จัดการศึกษาเพื่อเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแทน แต่ให้พยายามจัดการเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาทก่อน

การปรับแผนและคำรับรอง ในตาราง Excel และระบบฐานข้อมูลออนไลน์ เช่น
- การศึกษาขั้นพื้นฐาน และการสอนผู้ไม่รู้หนังสือ ในตาราง Excel ให้ใส่เป้าในไตรมาส 1 กับ 3 แต่ในระบบฐานข้อมูลให้ใส่เป้าเฉพาะไตรมาส 1 โดยระดับตำบลไม่ต้องลงงบประมาณ การศึกษาขั้นพื้นฐาน
- แผนและคำรับรอง ไม่ต้องลง การจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน การซื้อหนังสือเรียน การเรียนทางไกลกับสถาบัน การศึกษาทางไกล
- ลงการเทียบระดับ โดยกำหนดเป้าเอง ลงเฉพาะจำนวนคน ไม่ต้องลงงบประมาณ 
- ช่องต่าง ๆ เช่น วิธีการจัด กลุ่มเป้าหมาย ให้ลงเป็นตัวเลขจำนวนคน ไม่ใช่ขีดเครื่องหมายถูก ไม่ใช่ปล่อยว่างไว้ กลุ่มเป้าหมายและงบประมาณ เมื่อรวมทุกไตรมาสต้องเท่ากับช่องเป้าหมายและงบประมาณ 2 ช่องแรก
- เป้าฯการจัดตั้งแหล่งเรียนรู้ในชุมชนตำบลละอย่างน้อย 1 แห่ง ส่วนการจัดตั้งศูนย์การเรียนชุมชนในวัด/สถานประกอบการ จังหวัดละ 2 แห่ง
- ถ้าระดับอำเภอลงงบประมาณตามที่จังหวัดจัดสรรให้อำเภอจริง ระดับจังหวัดต้องลงงบประมาณเติมในส่วนของจังหวัดให้ครบตามที่ส่วนกลางกำหนดจัดสรร
- ประเภทกลุ่มเป้าหมายของ การศึกษาขั้นพื้นฐาน เปลี่ยนจาก ผู้ด้อย ผู้พลาด ผูกขาด เป็น ปกติ พิการ เร่ร่อน เพื่อไม่ให้สับสน และสอดคล้องกับทะเบียน นักศึกษาในโปรแกรม ITwฯลฯ