|
|
 |
ประวัติความเป็นมา :
ไข่เค็ม เป็นภูมิปัญญาของคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง ซึ่งคนสมัยก่อนทำไข่เค็มเพื่อเก็บไว้บริโภคในยามที่ขาดแคลน หรือเพื่อยืดอายุการเก็บของไข่ที่เหลือจากการบริโภคสด และถือเป็นภูมิปัญญาที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีของชาวบ้านที่สืบทอดกันมาช้านาน ต่อมาไข่เค็มได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น มีความหลากหลาย ทั้งวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมมีคุณประโยชนที่หลากหลายมีรสชาติที่แตกต่างกัน ปัจจุบันมีการพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการค้ามีการไปจำหน่ายในรูปของไข่เค็มทั้งที่เป็นไข่เค็มสด และไข่เค็มที่ต้มแล้วสามารถนำไปบริโภคได้เลย หรืออาจนำไปทำเป็นไส้ขนมต่างๆ เช่น ขนมเปี๊ยะ ขนมไหว้พระจันทร์ ขนมบ๊ะจ่าง ตลอดจนนำใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารต่างๆ ได้อีกด้วยในเขตพื้นที่ตำบลเชียงรากใหญ่ผู้ริเริ่มดำเนินการดำเนินการรวมกลุ่มสตรีบ้านศาลาพระม่วง ทำไข่เค็มเมื่อปี พ.ศ. 25๕๕
ปัจจุบัน ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หมู่ที่ ๑ บ้านศาลาพระม่วง ตำบลคลองหิน อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ได้รวมตัวกันเพื่อสร้างอาชีพ สร้างราย ให้แก่ครอบครัว ชุมชน โดยมีประธานกลุ่ม คือ นางสุมน สำเภารัตน์ โดยมีนางเทวี ชนะกุล เป็นที่ปรึกษามีแนวคิดที่จะช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกให้มีรายได้เสริมเพื่อช่วยเหลือครอบครัว ได้ทำไข่เค็ม เพื่อไว้รับประทานในครัวเรือน และจำหน่ายในพื้นที่ใกล้เคียง ปรากฏเป็นที่ต้องการของตลาด จึงชักชวนสมาชิกร่วมหุ้นกันเพื่อดำเนินการผลิตไข่เค็ม จวบจนทุกวันนี้
|
|
ที่ตั้ง ๑๓๒ หมู่ที่ ๑ บ้านศาลาพระม่วง ตำบลคลองหิน อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ๘๑๑๑๐
 
ประธานกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ กลุ่มอาชีพสตรีบ้านศาลาพระม่วง
นางเทวี ชนะกุล มือถือ : 08๗-8๘๔๑-๑๒๒
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อ โดยตรง ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หมู่ที่ ๑ ตำบลคลองหิน
อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่
 
สถานที่ตั้ง (นายประเวศ บุญส่ง) อายุ ๖๕ ปี ที่อยู่ ๒๓/๒ หมู่ที่ ๑ ตำบลคลองหิน อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่
มือถือ ๐๙๘-๐๑๗๓๐๒๙
ประวัติความเป็นมา
การแพทย์แผนโบราณ แพทย์แผนไทย เป็นความรู้ที่สืบทอดต่อ ๆ กันมาจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ จากในอดีตที่ไม่ มีเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาให้การช่วยเหลือ ชาวบ้านที่เจ็บป่วยจึงต้องหันไปพึ่งพาหมอที่อยู่ตามชุมชนหมู่บ้านในละแวก ใกล้เคียง ซึ่งหมอเหล่านี้ก็มีการนำเอาความรู้มาจากตำราบันทึกประสบการณ์ และการบอกเล่าจากหมอรุ่นเก่า กลายเป็นที่พึ่งพิงสำหรับชาวบ้านมาช้านาน
นายประเวศ บุญส่ง ได้ประกอบอาชีพแพทย์แผนไทย (แผนโบราณ) มาเป็นเวลา ๒๐ ปี ด้วยตัวยาสมุนไพร ประมาณ ๖๐๐-๗๐๐ ชนิด เครื่องยาส่วนใหญ่ซื้อมาประมาณ ๘๐% และปลูกเอง ๒๐%
ผลงานของแพทย์แผนไทย รักษาโรคทั่วไป องค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยล้วนเป็นผลสืบเนื่องจากการสะสมประสบการณ์ในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมองว่าจิตใจและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์มีการทำงานที่สัมพันธ์และเป็นหนึ่งเดียว นอกจากนี้ยังสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงจักรวาล การแก้ปัญหาจึงใช้วิธีแบบองค์รวม (holistic) ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องของการแพทย์อย่างเดียวล้วน ๆ แต่เป็นเรื่องของปรัชญาความคิดที่ครอบคลุมไปถึงการดำเนินชีวิตตามแบบวิถีชีวิตคนไทย
ในปี ๒๕๔๕ นายประเวศ บุญส่ง ได้สอบจนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ ในสาขาเภสัชกรรม และรับเกียรติบัตรต่างๆ เช่น อสม.ดีเด่นระดับจังหวัด ปี ๒๕๕๓ สาขาการแพทย์ไทย และภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ ,ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกลุ่มผู้ผลิตหรือจำหน่ายยาแผนไทยแพทย์แผนไทย
ประโยชน์ที่ได้รับ
๑. ผลการรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว
๒. ใช้ยาปริมาณน้อย
๓. มีแพทย์ที่ชำนาญการและเชื่อถือได้
 ๔. วิธีในการรักษาสมารถเชื่อถือได้เพราะใช้หลักทางวิทยาศาสตร์
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อ โดยตรง ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หมู่ที่ ๑ ตำบลคลองหิน
อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่
 
สถานที่ตั้ง เลขที่ ๒๗ ม.๓ (บ้านป่างาม) ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
ผู้ประกอบการ นายหร่อหลี สายวารี มือถือ ๐๘๙-๕๘๗๐๘๐๕
ประวัติความเป็นมา
“ฝาขัดแตะ”เป็นการนำไม้ไผ่มาผ่าซีก หรือทำประโยชน์ เป็นหัตถกรรมพื้นบ้านที่ในปัจจุบันเริ่มมีผู้สนใจมากการทำฝาขัดแตะเป็นจัดเป็นงานจักรสานที่ต้องอาศัยความประณีตบรรจง เพราะนอกจากจะเป็นของความแข็งแรงทนทานแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความสวยงามอีกด้วย
การทำฝาขัดแตะ นายหร่อหลี สายวารี ได้ใช้ไม้ไผ่โป หรือไผ่โปะ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า (Zchizostachyum brachycladum Kurz) เป็นไม้ไผ่ที่ขึ้นตามธรรมชาติและพบมากทางภาคใต้ โดยเฉพาะแถวจังหวัดกระบี่ ตรัง พัทลุง และนครศรีธรรมราช ชอบขึ้นบนพื้นที่ราบ ตามป่า ขึ้นเป็นกอๆ หนึ่งมีประมาณ ๓๐ ลำ
การทำนี้ไม้ไผ่ที่นำมาผ่าเป็นซี่ ๆ ขนาด ๒ เซนติเมตร ไม้ไผ่ ๑ ท่อน ผ่าออกได้ ๑๒ ซี่ ผ่าด้วยจำเปา หลังจากนั้นใช้มีดมาเหลาข้อออกผ่าเป็น ๒ ซีก ด้านอยู่ข้างนอกติดผิวมันมีความแข็งแรง สวยงาม เรียกว่า "หลังไม้ไผ่ " ส่วนอีกซีกอยู่ด้านในเรียกว่า "หน้าไม้ไผ่ " เวลาสานต้องทำทั้งสองส่วนมาผสานสลับกันและเห็นลายชัดเจน ลายที่ใช้คือ
๑. ลาย ๒ ๕. ลายลูกแก้วสีดอก
๒. ลาย ๓ ๖. ลายลูกแก้วดอกเดียว
๓. ลายลูกแก้วชิ้นเดียว ๗. ลายไทย
๔. ลายลูกแก้ว ๒ ชิ้น ๘. ลายปีกเหยี่ยว
ลายที่ใช้นิยม ลายลูกแก้วและลายปีกเหยี่ยว เพรามีความสวยงามแข็งแรงมาก
ประโยชน์ที่ได้รับการประยุกต์ใช้
๑. ใช้ทำฝาบ้าน รีสอร์ท นำไปตกแต่งอาคาร เช่น ผนังห้องประชุม ทำฝ้าเพดาน สามารถทำรายได้ให้กับชุมชนผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่าย แคร่ ซุ้ม ศาลา ฝาสาน ฯลฯ
๒. ใช้เองในครัวเรือน
๓. ลดรายจ่าย เสริมสร้างรายได้ สร้างอาชีพ
๔. เสริมสร้างทักษะ ความคิดสร้างสรรค์

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อ โดยตรง ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หมู่ที่ ๔ ตำบลคลองหิน
อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่
 
ที่ตั้ง
กศน.ตำบลคลองหิน หมู่ที่ ๑ บ้านศาลาพระม่วง ตำบลคลองหิน อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่
โทรศัพท์ ๐๘๑-๘๙๔๙๘๙๓
คำว่าปาเต๊ะ
เป็นภาษามลายู แหล่งกำเนิดของผ้าปาเต๊ะในชวา อินเดีย จีน แต่ละแห่งจะแตกต่างกันเล็กน้อย โดนเฉพาะที่เกาะชวาการทำผ้าปาเต๊ะจะมีเทคนิคการทำที่สูงมาก โดยเฉพาะลวดลาย การนย้อมสี ตลอดจนเนื้อผ้าอินโดนีเซียที่ได้รับยกย่องว่าเป็นผ้าปาเต๊ะชั้นสูง เนื่องจากภาคใต้ ส่วนมากนิยมนำผ้าปาเต๊ะเป็นเครื่องแต่งกายประจำท้องถิ่น โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ อันเป็นจุดประกายให้ทางกลุ่มสนใจ ศึกษา รวบรวมข้อมูล และออกแบบสร้างสรรค์ผลงาน โดยมุ่งเน้นออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนให้ความนิยมในท้องถิ่นของจังหวัดกระบี่ เน้นให้มีลวดลายที่โดดเด่น สะดุดตา และสวยงามประณีตต่อผู้พบเห็น วัสดุ สี ลูกปัด วัตถุดิบ ที่เลือกใช้ในงานต้องเป็นวัสดุที่คัดสรรอย่างมีคุณภาพ ด้วยลวดลายที่บ่งบอกถึงความงามที่มาจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนอย่างลงตัว ซึ่งเป็นที่นิยมของสตรีทุกวัย
กศน.ตำบลคลองหิน ได้จัดทำโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน “หลักสูตรการเพ้นท์ผ้าปาเต๊ะ หลักสูตร ๔๐ ชม. ผลิตภัณฑ์ผ้าปาเต๊ะ เช่น ผ้าถุง ผ้าปาเต๊ะเพ้นท์ลาย เพ้นท์ผ้าปาเต๊ะปักเลื่อม เป็นต้น
ผลงาน
การเพ้นท์ผ้าปาเต๊ะ ตัวแทนสำนักงานศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดกระบี่ จัดนิทรรศการ การเพ้นท์ผ้าปาเต๊ะดีไซด์ ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๗ เมษายน ๒๕๕๙ ณ ตลาดนัดคลองผดุงกรุงเกษม กรุงเทพมหานครฯ และสามารถออกบูธจัดนิทรรศการในการจัดแสดงสินค้างานต่างๆ มากมาย
ประโยชน์ที่ได้รับ
๑. ลดรายจ่าย เสริมสร้างรายได้ สร้างอาชีพ
๒. ใช้เองในครัวเรือน
๓. เสริมสร้างทักษะ ความคิดสร้างสรรค์


ที่ตั้ง วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผสมปุ๋ย 47/4 ม.2 บ้านนบ ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
นายวินิจ พึ่งหล้า : เบอร์โทรศัพท์ ๐๘-๔๘๔๑-๔๗๔๙
ประวัติความเป็นมา
ใช้ปุ๋ยเคมีผสมเอง ทางเลือกที่อยากบอกต่อ ในภาวะเศรษฐกิจอย่างปัจจุบันนี้ ทุกคนต้องปรับตัวเพื่อรับกับสถานการณ์ที่รายได้ลดลงแต่รายจ่ายยังคงเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก สำหรับชาวสวนยางพาราแล้ว ปุ๋ยเคมีเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง ซึ่งชาวสวนแต่ละคนต้องจ่ายไปไม่น้อย ในแต่ละปี และในปีที่ผ่านมานี้ปุ๋ย (ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตหลัก อย่างหนึ่ง รองจากค่าแรง) มีราคาแพงมาก ทำให้ต้นทุนของพี่น้องชาวสวนยาง ในส่วนนี้เพิ่มสูงขึ้นมาก จนบางคนต้องลดปริมาณปุ๋ยลง ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณผลผลิตยางพาราลดลง นั่นคือ รายได้ของชาวสวน ลดลงไปด้วย
ประโยชน์ที่ได้รับ
๑. การลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต
๒. เลือกสูตรและอัตราการใช้กับพืชเองจากคำแนะนำ คำนวณหาปริมาณและชั่งแม่ปุ๋ยแต่ละชนิดจากตารางหนังสือคู่มือการผสมปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆ
๓. ตัดปัญหาเรื่องปุ๋ยปลอม/ปุ๋ยไม่ได้มาตรฐาน
๔. ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เวลาและแรงงานในครัวเรือน ให้เป็นประโยชน์และมีประสิทธิภาพ

 
สถานที่ตั้ง 37/9 ม.๕ บ้านช่องไม้ ตำบลคลองหิน อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่
นางไหรหนับ อุมาสะ เบอร์โทร : ๐๘๑-๒๗๒-๔๘๐๔
ประวัติความเป็นมา สำหรับผู้ที่รักสุขภาพหลายคน คงจะต้องลงคะแนนให้กับผลไม้ที่มีรูปร่างสวยงาม สีสันสดใส และมีชื่อเรียกที่ไพเราะอย่าง “แก้วมังกร” ให้เป็นผลไม้ที่มากคุณค่า และยังเหมาะสำหรับผู้ที่ดูแลรูปร่าง ดูแลสุขภาพด้วย
สรรพคุณ ต้านทานกระดูก ฟัน และกล้ามเนื้อ และในแก้วมังกรเนื้อแดงนั้น ยังมีสารไลโคปีนที่สามารถต่อต้านมะเร็งได้อีกด้วยด้วยรสชาติที่หวานน้อยประกอบกับคุณค่าทางโภชนาการของแก้วมังกรที่มีมากมายเช่นนี้ จึงทำให้เป็นผลไม้ที่หลายๆ คนชื่นชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รักสุขภาพ กลัวความหวาน กลัวไขมัน ต้องการลดความอ้วน ควบคุมน้ำหนัก รวมถึงผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานด้วย
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. ช่วยบำรุงผิว มีส่วนช่วยบำรุงผิวทำให้ผิวสวยเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้นและยังลดการเกิดสิวด้วย
2. ดับกระหายได้ดี ด้วยรสชาติหวานอ่อนๆ ของแก้วมังกร จึงช่วยดับกระหายได้อย่างดีเยี่ยมเลยล่ะ
3. เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย มีสรรพคุณเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง และยังช่วยต่อต้านโรคภัยต่างๆ
4. ตัวช่วยลดน้ำหนักได้ผล แก้วมังกร เป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงจึงทำให้ช่วยลดน้ำหนักและเป็นตัวช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดี
 
  แหล่งเรียนรู้ กศน.ตำบลคลองหิน “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่”
สถานที่ตั้ง ๓ ม.๒ ตำบลคลองหิน อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่
นายสมาน ศุภพรพงศ์ เบอร์โทรศัพท์ : ๐๘๐-๘๗๙๒๗๙๗
ประวัติและความเป็นมาของศูนย์ฯ
เนื่องจากในพื้นที่ “บ้านนบ” ไม่มีจุดศูนย์รวมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในชุมชน นายสมาน ศุภพรพงษ์ จึงได้ร่วมกันกับผู้นำชุมชน, อบต.คลองหิน,ประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร หลังจากนั้น คนในชุมชนและภายนอกชุมชนมาใช้บริการ โดยเป็นศูนย์เรียนรู้ฯ ในชุมชน มีแนวทางการสอนคนให้ปรับเปลี่ยนแนวคิด บนพื้นฐานของความเป็นจริงของแต่ละบุคคล โดยอาศัยทุน คือ ภูมิปัญญาที่มีอยู่ นำมาปรับใช้เกิดประโยชน์ เข้าร่วมโครงการพัฒนาการเกษตรตามแนวทฤษฏีใหม่ โดยยึดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่ปี 2551
ประโยชน์ที่ได้รับ
องค์ความรู้ที่อยู่บนพื้นฐาน ของความเป็นจริงและสามารถถ่ายทอดให้แก่ผู้มาศึกษาได้ 7 องค์ความรู้ คือ การผลิตอาหารสัตว์ 4 กระเพาะ (โดยใช้ใบทางปาล์ม) การเลี้ยงแพะ โดยไม่กินหญ้า การเลี้ยงเป็ด และไก่คอล่อน เตาแก๊สชีวภาพจากมูลสัตว์ การเลี้ยงปลาดุกในบ่อดิน การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ การปลูกพืชผสมผสานต่างระดับ การปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ สมุนไพรรักษาโรค การทำนาข้าว การปลูกข้าวไร่ การปลูกพืชตีกลับ และการทำบัญชีครัวเรือน

แหล่งเรียนรู้ตำบลคลองหิน




ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภออ่าวลึก
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดกระบี่
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ
เข้าชม : 838
|