แนวทางพินิจอาการ โรคกล้ามเมื่อยล้า ถ้าหากมีลักษณะ ควรจะรีบเจอหมอ
บางบุคคลบางทีอาจจะเคยประสบพบเห็นคนเฒ่าคนแก่ และก็ยังรวมทั้งวันทำงาน มีลักษณะเปลี่ยนไปจากปกติ อย่างเช่น กล้ามกระตุก ควบคุมอวัยวะต่างๆทุกข์ยากลำบาก การพูดการกลืนก็ไม่ปกติ อาการกลุ่มนี้เป็นสัญญาณอันตรายของโรค "กล้ามเหน็ดเหนื่อย"
ตกขาวเป็นน้ํา มีกลิ่นคาว กล้ามเนื้อกระตุก ดาวซินโดม กรดนิวคลีอิก คันจิมิ ภายนอก
โรคกล้ามอ่อนล้า เป็นอย่างไร? โรคกล้ามเหน็ดเหนื่อย หรือ ALS (Amyotrophic Lateral Sclerosis)เป็นจัดเป็นโรคที่มักพบที่สุดในกรุ๊ปโรคเสื่อมของเซลล์ควบคุมกล้าม อีกทั้งในส่วนของสมอง และก็ไขสันหลัง โดยมีลักษณะอาการกล้ามเกร็ง กล้ามอ่อนเปลี้ยเพลียแรงและก็ลีบเล็กลงเรื่อย รอบๆมือ แขน ขา หรือเท้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก่อน และก็จะเบาๆเป็นมากขึ้น จนกระทั่งลุกลามไป ทั้งยัง 2 ข้าง ร่วมกับมีลักษณะกล้ามเกร็งหรือกล้ามกระตุก ถัดมาจะมีลักษณะอาการบอกตรากตรำ กลืนทุกข์ยากลำบาก หายใจลำบากแล้วก็หอบอ่อนล้าจากกล้ามที่ใช้สำหรับการหายใจอ่อนล้า จนถึงเสียชีวิต
ลักษณะโรคกล้ามอ่อนล้า ส่วนมากจำนวนร้อยละ 75 จะเจออาการเริ่มต้นที่แขน ขา ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก่อน ปริมาณร้อยละ 25 คนเจ็บที่ออกอาการทีแรกด้วยการกลืนหรือบอกตรากตรำ ส่วนมูลเหตุการเกิดโรคที่จริงจริงยังไม่รู้จักชัดแจ้ง แต่ว่าพบว่าราวปริมาณร้อยละ 10 ของคนเจ็บมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ โรคดังกล่าวมาแล้วข้างต้นพบได้ทั่วไปในเพศชายมากยิ่งกว่าหญิง ส่วนมากกำเนิดในช่วงอายุ 40-60 ปี
กรรมวิธีพินิจลักษณะโรคกล้ามเหน็ดเหนื่อย อาการเมื่อยล้าของกล้าม แขน หรือ ขา หรือมีลักษณะอาการกลืนทุกข์ยากลำบาก เสียงเปลี่ยนแปลง ร่วมกับอาการกล้ามลีบและก็กล้ามเต้นกระตุก โดยอาการเมื่อยล้าจะเบาๆเป็นมากขึ้นเรื่อย เมื่อมีลักษณะดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วควรจะรีบมาเจอหมอเพื่อวิเคราะห์รักษา โดยหมออายุรกรรมสาขาประสาทวิทยาที่มีประสบการณ์ จะทำซักความเป็นมา ตรวจสุขภาพ แล้วก็ตรวจทางห้องทดลองเพิ่ม โดยการตรวจเส้นประสาทและก็กล้ามด้วยคลื่นกระแสไฟฟ้า
ดังนี้ การรักษาผู้เจ็บป่วยโรคนี้เป็นการรักษาแบบช่วยเหลือ ส่วนยาในตอนนี้ที่มีการสารภาพในแวดวงแพทย์ ช่วยชะลอการดำเนินของโรคได้มีเพียงแค่ยา Riluzole โดยมีฤทธิ์สำหรับในการยั้งสารกลูตาเมต ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท ประเภทหนึ่งซึ่งถ้าเกิดมีมากจนเกินไปจะก่อให้มีการตายของเซลล์
นอกเหนือจากการใช้ยาสำหรับโรคกล้ามอ่อนเพลีย แล้ว การให้กำลังใจคนไข้ไม่ให้มีการหมดกำลังใจและก็ผลักดันให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และให้ผู้เจ็บป่วยบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ทำกิจกรรมและก็ทำกายภาพบำบัดกล้ามส่วนที่อ่อนกำลัง เพื่อคุ้มครองปกป้องการลีบที่เกิดขึ้นมาจากสภาวะที่กล้ามมิได้ใช้งานนานๆรวมทั้งคุ้มครองปกป้องการต่อว่าดของข้อ การทานอาหารรวมทั้งพักให้พอเพียง
ถ้าหากคนเจ็บมีปัญหานอนราบมิได้หรืออิดโรย เนื่องมาจากกล้ามเครื่องบังลมเมื่อยล้า การใช้งานเครื่องช่วยหายใจจำพวกไม่ใส่ท่อช่วยหายใจที่บ้าน จะมีผลให้คนเจ็บนอนได้ไม่อ่อนแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้
เข้าชม : 14
|