SUMMER LIGHT
ถ้าคุณติดตามโครงการ Men's Health Guys'Challenge มาโดยตลอด คุณคงต้องคุ้นหน้า May Guy ของเราในฉบับนี้กันบ้างใช่ไหมครับ ภัทรเดช สงวนความดี (ไมเคิล) 1 ใน 10 ของผู้เข้ารอบ MHGC 2011 ที่แม้ว่าบนเวทีวันนั้นเขาจะไม่ได้รับรางวัลใดๆ แต่ในวันนี้เขากำลังได้รับรางวัลที่ใหญ่กว่าบนเวทีชีวิตแล้วครับ
ไมค์ก้าวเข้าวงการบันเทิงด้วยการเข้ามาประกวด Men's Health Guys'Challenge ต่อด้วยการเดินแบบและถ่ายแบบจากนั้นจึงเข้าไปแคสดิ้งละคร จนได้ชิมลางวงการบันเทิงด้วยละครซิทคอม เณรจ๋และได้รับบทเด่นในละครเรื่องแรกเลือดเจ้าพระยา จากนั้นชื่อของไมค์ภัทรเดชก็ขึ้นแท่นพระเอกของช่องมาตลอด
"การประกวด Men's Health ให้อะไรผมหลายอย่างมาก ผมไม่เคยน้อยใจที่ไม่ได้รางวัลนะครับ เพราะผมรู้ตัวเอง ตอนนั้นผมก็ไม่มา พอไม่ได้รางวัลก็เลยไม่แปลกใจไม่ค่อยมีวินัย ผมมาสาย งานระหว่างสัปดาห์พี่หมอกร (นพ.กนธร ปราณีประซาชน Men's Health Guy 2011) เขานิสัยดีจริงๆพี่หมอดีกับทุกคนมาก มีน้ำใจกับน้องทุกคนตลอดเวลาสามเดือนเราไม่รู้สึกว่าเสียเวลาหรือไม่รู้สึกว่าเสียอะไรไปเลย เรารู้สึกว่ามีแต่ได้กับได้ ซึ่งไม่ใช่การได้สิ่งของ แต่เราได้เรียนรู้ชีวิตคนอื่นอีก 9 คน เรารู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นมีเป้าหมายมากขึ้น ที่นี่สอนทั้งการใช้ชีวิตการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การเก็บออมเงิน สอนให้เราเป็นสุภาพบุรุษจากข้างในจิตใจ ไม่ใช่เป็นสุภาพบุรุษเพราะมีคนมอง หลายคนคิดว่าเข้ามาแล้วจะต้องเป็นนักกล้าม ต้องเข้ามาเอาของฟรี มันไม่ใช่เลยครับ ผมไม่เห็นคนที่คิดแบบนี้ได้ดีสักคน ส่วนทางด้านร่างกายรูปร่างผมดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะผมได้เทรนเนอร์คอยดูแลและให้คำปรึกษา ผมได้รับรู้จุดบกพร่องและวิธีแก้ไขเพื่อให้รูปร่างดีขึ้น"
คุณเคยเรียนที่ประเทศจีนเล่าประสบการณ์ครั้งนั้นให้เราฟังหน่อย
"ตอนนั้นผมอายุประมาณ 1920 ปี ผมจะหาคณะที่ได้ไปเรียนในจีน ซึ่งก็มีคณะเดียวคือภาษาจีนธุรกิจ ผมก็เลยเริ่มเรียนภาษาจีนในไทยก่อนหนึ่งปี พอขึ้นปีสองก็ไปเรียนที่จีนจบปริญญาตรีที่นั่นใบหนึ่ง ที่ไทยอีกใบหนึ่งตอนไปสามเดือนแรกพูดไม่รู้เรื่องเลย ผมฟังไม่ออกเลยว่าเขาพูดอะไรทั้งๆ ที่ตอนอยู่ไทยก็เรียนมา แต่พอไปใช้จริงกลับไม่ได้เรื่องเลยก็ได้เพื่อนคนจีนคอยช่วยเหลือ สอนเรื่องการออกเสียง หาหนังสือมาอ่านเพิ่ม พอพ้นสามเดือนไปแล้วสบายเลย ประสบการณ์ตอนนั้นสอนผมเยอะมาก ผมซักผ้าเองครั้งแรกในชีวิต ต้องดูแลทำความสะอาดห้องเองทำทุกอย่างทั้งๆ ที่ไม่เคยทำ ได้เพื่อนจากหลายประเทศด้วย ตอนนี้ก็ยังติดต่อกับเพื่อนที่จีนอยู่ ผมยังอ่านออกและพูดได้ครับ แต่ถ้าเขียนนี้จะไม่ค่อยได้ใช้แล้ว ผมชอบคนจีนนะ
ผมว่าเขาเป็นคนง่ายๆ ไม่ซับซ้อน คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ไม่เหมือนคนไทยที่เราต้องมาคิดว่าพูดอย่างที่รู้สึกจริงๆ หรือเปล่าและคนจีนก็เป็นคนตรงเวลาด้วย คนไทยมักจะมีอคติเรื่องคนจีนพูดเสียงดัง แต่บ้านผมก็คนจีน เสียงดังอยู่แล้ว ผมว่าถ้าเราไปประเทศเขา เราก็ต้องเข้าใจวัฒนธรรมของเขานะเพราะมันเป็นชีวิตเขา อยู่ที่ไหนก็ต้องปรับตัวทั้งนั้น"
คุณเรียนมาทางด้านธุรกิจแต่ทำไมเลือกเป็นนักแสดง
"ผมจบเอกภาษาจีนธุรกิจ ผมก็อยากจะทำงานด้านที่เรียนมา แต่พอดีมีจุดหักเหในชีวิต จากเรื่องของครอบครัวเราที่ค่อนข้างจะมีฐานะดี แต่พอวันหนึ่งมีเหตุการณ์พลิกผันทำให้ชีวิตผมต้องเปลี่ยน สิ่งที่เคยมีกลายเป็นไม่มี ฐานะที่บ้านก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อมีโอกาสทำงานในวงการบันเทิงเข้ามาทำให้ผมต้องเลือก ตอนนั้นมีคนมาชวนผมไปทำงานที่เชินเจิ้น เสนอเงินเดือนให้หลักหมื่นบาท แต่เพราะคุณแม่เลยทำให้ผมเข้ามาทำงานตรงนี้ เพื่อเอาเงินไปให้ท่านผมไม่อยากเห็นท่านลำบาก ตอนนั้นถ้าผมท้อและเลือกที่จะเอาแต่ตัวเองสบายแล้วไปทำงานที่จีน มีทุนเรียน มีทุนเที่ยวก็ได้แต่ผมก็ไม่เลือก ผมยอมลำบากตรงนี้ดีกว่าเพราะไม่รู้ว่าท่านจะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหนถ้าผมไปจีนท่านอาจจะไม่ได้อยู่กับผมแล้วก็ได้ เราสู้ไปด้วยกันตรงนี้ดีกว่า ในเมื่อครอบครัวรอไม่ได้ ผมเลยต้องทำในสิ่งที่ผมไม่ได้ขอบมาตั้งแต่แรก เพราะสำหรับผมคุณแม่และครอบครัวต้องมาก่อนเสมอ
"ช่วงแรกที่ทำงาน ผมไม่ค่อยเต็มที่คิดแค่ว่าอยากจะทำงานด้านที่เรียนมากับงานสักเท่าไร เพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่นมากกว่า จนมาถึงละครเรื่องที่สาม ใยกัลยาผมเริ่มรู้สึกว่าควรจะต้องจริงจังกับสิ่งที่ทำอยู่ต้องทำอะไรสักอย่างกับชีวิตแล้ว ก็เริ่มตั้งใจกับงานมากขึ้น ผมเคยไปเรียนแอกติ้งมาสองคอร์ส ไม่เคยจดอะไรเลย เรียนไปงั้นๆแต่พอมาวันนี้ผมต้องมานั่งนึกทบทวนว่าจะต้องเริ่มจากอะไรบ้าง จะแสดงบทนี้ต้องเริ่มอย่างไร รู้สึกได้เลยว่าตั้งแต่ผมตั้งใจและเต็มที่กับงาน งานก็ดีขึ้นเยอะ ผลตอบรับจากคนดูก็ดีขึ้น มีความสุขกับการทำงานมากขึ้นชีวิตดีขึ้นเยอะเลยครับ รู้แล้วว่าแค่เราเอาจริงเอาจัง และตั้งใจทำให้เต็มที่กับทุกโอกาสที่ได้รับ แค่นี้ชีวิตการทำงานของเราก็มีความสุขแล้วครับ" ทดลองเล่นบาคาร่าออนไลน์ฟรี รางวัลใหญ่ในชีวิตที่ได้กล่าวถึงไว้ในตอนต้น คือการที่ไมค์ได้ตอบแทนผู้มีพระคุณสูงสุดในชีวิต และได้เริ่มที่จะรักในสิ่งที่ทำอยู่ซึ่งนั่นก็หมายความว่าไมค์จะมีความสุขในทุกๆ วัน เพราะต้องถ่ายละครทุกวันฮ่าฮ่าฮ่า) เราขอเอาใจช่วยทุกคนที่กำลัง"เริ่ม" และกำลัง "ท้อ" การที่คุณแพ้ในเวทีหนึ่งอาจจะเป็นหนทางให้คุณก้าวไปชนะในอีกเวทีข้างหน้าก็ได้นะครับ
เข้าชม : 3
|